ยางรถยนต์เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญในการขับเคลื่อน ปัจจุบันนวัตกรรมของยางรถยนต์ก็มีการพัฒนาไปอย่างมาก กว่าจะเป็นยางรถยนต์หนึ่งเส้นได้นั้นจำเป็นต้องใช้วัสดุ เทคโนโลยีและองค์ประกอบอื่นๆ อีกมากมายมารวมกันจนเป็นยางที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากที่สุด โดยหนึ่งในส่วนประกอบสำคัญที่นักขับมือใหม่ต้องทำความรู้จักก็คือ “ดอกยางรถยนต์” นั่นเอง เพื่อที่จะได้เลือกใช้งานยางรถยนต์ได้ถูกต้องตามความเหมาะสม เรามาสำรวจไปพร้อมกันเลยว่าดอกยางรถยนต์เหล่านี้มีกี่ประเภทและเหมาะกับการใช้งานแบบไหนกันบ้าง
ประเภทของดอกยางรถยนต์
1. ดอกยางแบบละเอียด (Rib Pattern)
ดอกยางรถยนต์แบบละเอียดจะมีร่องยางอยู่วงรอบยางไล่ไปเป็นแนวยาว มีความละเอียดกว่าแบบอื่นๆ เสียงรบกวนเมื่อใช้งานน้อย มีทั้งแบบร่องตื้นและร่องลึกให้เลือกใช้ หากเป็นแบบร่องตื้นก็จะเกาะถนน ลดการลื่นไหลและระบายความร้อนระหว่างใช้งานได้เป็นอย่างดี แต่ในส่วนของร่องลึกจะเน้นไปที่การช่วยรีดน้ำมากกว่า อย่างไรก็ตามดอกยางประเภทนี้เหมาะกับถนนทางเรียบและไฮเวย์วิ่งยิ่งยาวระยะไกลเป็นพิเศษ
2. ดอกยางแบบบั้ง (Lug Pattern)
ดอกยางรถยนต์แบบบั้งจะเป็นการทำร่องในแนวขวางซึ่งตรงข้ามกันกับดอกยางแบบแรก ดอกยางแบบนี้มักจะมีร่องลึกเพื่อการอายุการใช้งานที่นานและทนต่อสภาพพื้นถนนแบบต่างๆ แม้จะใช้กับพื้นถนนเรียบธรรมดาได้เมื่อใช้ความเร็วต่ำ แต่ด้วยความทนจึงนิยมใช้ดอกยางแบบบั้งกับพื้นถนนที่มีผิวหน้าขรุขระมากกว่า
3. ดอกยางแบบผสม (Rib Lug Pattern)
ดอกยางรถยนต์แบบผสมคือการนำดอกยางแบบละเอียดและแบบบั้งมาอยู่บนยางเส้นเดียวกัน เรียกว่าเป็นการดึงข้อดีของดอกยางทั้งสองแบบมาใช้งานก็ว่าได้ นิยมนำดอกยางแบบละเอียดไว้ตรงกลางและรอบขอบยางทั้งสองด้านเป็นแบบบั้ง เหมาะกับพื้นถนนทุกสภาพ จะเรียบหรือขรุขระก็สามารถใช้งานได้
4. ดอกยางแบบบล็อก (Block Pattern)
ดอกยางรถยนต์แบบบล็อกจะมีลักษณะร่องยางที่ลึกชัดเจน เนื่องจากตัวดอกยางนั้นเป็นรูปแบบก้อนบล็อกเหลี่ยม รีและกลม ด้วยระยะระหว่างดอกยางที่กว้างจึงทำให้ดอกยางแบบบล็อกเหมาะกับสาย Adventure ที่ต้องบุกป่าฝ่าน้ำโคลนทรายโดยเฉพาะ แต่ถ้าหากนำมาใช้งานบนพื้นเรียบร่องยางที่กว้างก็จะทำให้เกิดเสียงดังน่ารำคาญ
ลักษณะลายดอกยาง
เมื่อรู้จักดอกยางรถยนต์ประเภทต่างๆ แล้ว ก็ถึงเวลามาดูกันว่าลักษณะลายดอกยางรถยนต์นั้นเป็นอย่างไรกันบ้าง ลักษณะลายดอกยางรถยนต์ก็คือลักษณะบล็อก แนวการวางและร่องดอกยางรถยนต์ ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป หลักๆ แล้วมี 3 ลักษณะด้วยกันคือ
- ดอกยางแบบทิศทางเดียว : เป็นแบบที่สามารถรีดน้ำออกได้ดีที่สุด เหมาะกับประเทศที่มีฝนตกบ่อยครั้ง เพราะช่วยเสริมแรงต้านบนพื้นถนนที่มีน้ำขังและคุณใช้ความเร็วสูงในการขับเคลื่อน
- ดอกยางแบบสมมาตร : ลักษณะลายดอกยางพื้นฐานที่เห็นกันตามท้องตลาด เหมาะกับการใช้กับรถยนต์โดยสาร
- ดอกยางแบบไม่สมมาตร : จะมีดอกยางหลายแบบอยู่บนยางเส้นเดียวกัน ออกแบบมาเพื่อรองรับการขับขี่ทุกสภาพถนน แต่นิยมใช้กับการเดินทางไกลหรือการใช้งานรถยนต์ในพื้นที่ต้องเข้าโค้งบ่อยๆ มากกว่า
จะเห็นได้เลยว่าดอกยางรถยนต์นั้นมีความสำคัญหลายส่วน เพราะถ้าหากคุณเลือกใช้งานโดยไม่รู้ข้อมูลในส่วนนี้ก็อาจทำให้เลือกใช้ยางผิดประเภทได้ นอกจากนี้ยังอาจทำให้ยางสึกหรอก่อนเวลาอันควร เป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน เพื่อความปลอดภัยอีกขั้นการมีประกันรถยนต์ติดตัวเอาไว้ก็น่าสนใจอย่างยิ่ง Rabbit care ได้รวบรวมประกันรถยนต์ชั้นนำของประเทศไทยมาให้คุณไว้เรียบร้อยแล้วที่ https://rabbitcare.com/car-insurance สามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดเพื่อตัดสินใจได้ทันที พกไว้อุ่นใจไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายส่วนเกินเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน